
ในบ้านเรือนแต่ละหลังน้ำนับเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญมาก เพราะน้ำคือสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตไม่ว่าจะเพื่อใช้ดื่มดับกระหาย อาบน้ำชำระร่างกาย หรือทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าต่าง ๆ ดังนั้นเมื่อสร้างบ้านเรือนหรือที่พักอาศัยครั้งใดก็มีความจำเป็นที่จะต้องวางระบบน้ำต่าง ๆ ให้ดี เพื่อให้มีน้ำใช้ที่เพียงพอ หรือเมื่อต้องการกำจัดน้ำเสียทิ้งก็ไร้ปัญหาอุดตันตกค้างได้เป็นอย่างดี แต่แม้จะวางระบบต่าง ๆ มาเป็นอย่างดีแล้วก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษษอย่างถูกวิธีด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ท่อน้ำประปา เป็นท่อน้ำที่รับน้ำประปาจากภายนอกเข้ามาใช้งานตามส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ท่อประปาในปัจจุบันได้รับการพัฒนาจนเป็นพลาสติกพีวีซีเกือบทั้งหมดแล้ว จึงไร้ปัญหาการเป็นสนิมเหมือนในอดีต แต่ก็ยังจำเป็นต้องได้รับการดูแลเพราะอาจเกิดปัญหาการรั่วซึมได้ ผู้ใช้งานจึงควรตรวจสอบมิเตอร์น้ำอย่างสม่ำเสมอ หากมิเตอร์มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ แสดงว่าท่อหรืออุปกรณ์น้ำประปาของท่านมีการแตกรั่ว ควรตรวจสอบจุดต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการรั่วไหลอย่างบริเวณถังชักโครก ถังเก็บน้ำ หรือข้อต่อก๊อกน้ำส่วนต่าง ๆ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้คงเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองมาก เจ้าของบ้านควรรีบซ่อมแซมอุปกรณ์เหล่านั้นทันที โดยการปิดวาวล์น้ำแล้วเปลี่ยนอุปกรณ์ท่อใหม่ หรือใช้น้ำยาอุดรอยรั่วมาใช้งาน

สามารถอ่านวิธีตรวจสอบมิเตอร์น้ำได้ง่ายๆที่ https://www.home.co.th/hometips/topic-9399
2.ถังพักน้ำ หรือถังเก็บน้ำ อุปกรณ์รับน้ำประปามาเก็บไว้สำรองใช้งาน ช่วยป้องกันปัญหาน้ำขาดแคลนไม่เพียงพอกับการใช้งานได้ดี แต่อุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดถังพักน้ำหรือถังเก็บน้ำทุก ๆ 6 เดือน
เริ่มจากการ
1. ปิดวาล์วน้ำเข้าถัง และไล่น้ำที่ตกค้างในถังออกไปให้หมด
2.จากนั้นใช้น้ำสะอาดล้างทั้งภายนอกและภายในของถังจนหมดคราบสกปรก
3.จากนั้นใช้น้ำผสมคลอรีนอัตราส่วน 4 ฝาต่อน้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วถังทั้งภายนอกและภายในถัง
4.ทิ้งไว้ 30 นาทีก็สามารถใช้งานถังพักน้ำได้ตามปกติ
3.ท่อน้ำทิ้ง ท่อน้ำทิ้งคืออุปกรณ์ที่ช่วยขจัดน้ำที่สกปรกให้ออกไปจากห้องต่าง ๆ และบ้านของคุณ ดังนั้นท่อน้ำนี้จึงควรได้รับการดูแลให้ไหลได้อย่างสะดวกอยู่เสมอ การดูแลควรเริ่มตั้งแต่การหาอุปกรณ์มาดักจับสิ่งปนเปื้อนอย่างเศษเส้นผม หรือเศษอาหารต่าง ๆ ไม่ให้ตกลงไปอุดตันท่อน้ำเสีย และควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำประมาณ 1 ถ้วยทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นเติมน้ำร้อนตามไปประมาณ 2 ลิตร เพื่อกำจัดคราบไขมันและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในท่อน้ำ


อ่านวิธีอื่นๆที่ลดปัญหาท่ออุดตันได้ที่นี่
หากเจ้าของบ้านดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของท่อน้ำและอุปกรณ์เกี่ยวกับน้ำด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เชื่อได้ว่าท่านจะไม่ประสบกับปัญหาเรื่องน้ำในบ้านกวนใจท่านอีกต่อไป